ความเห็นของผมในฐานะผู้ปกครอง ครูสอนพิเศษ มองเรื่องการศึกษาเด็กไทยใน 10 ปีข้างหน้า เห็นว่า การพัฒนาการศึกษาไทยค่อนข้างจะผิดทางในหลายๆ เรื่อง เช่น การพัฒนาเด็กที่มีความสามารถพิเศษทางด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ จากประสบการณ์สอนพิเศษเด็กกลุ่มนี้ พบว่า เด็กกลุ่มนี้จะใช้ลักษณะการจำวิธีแก้ปัญหาของโจทย์ จากโจทย์ที่ได้จากข้อสอบแข่งขัน ไม่ได้พัฒนาจากพื้นองค์ความรู้พื้นฐานที่เด็กที่มีอยู่ ทำให้เด็กไม่สามารถไปประยุกต์ใช้กับโจทย์ในเรื่องเดียวกัน แต่รูปแบบไม่เหมือนกับโจทย์ที่เคยเจอ เลยทำให้ไม่สามารถทำโจทย์ข้อนั้นได้ บางครั้งก็เข้าใจครูผู้สอนด้วย เพราะเนื้อที่จะมาอธิบายเป็นความร้ในขั้นสูง ซึ่งเด็กไม่เคยเรียนมาก่อน จึงอยากจะให้การเตรียมตัวเด็กประเภทนี้ต้องเตรียมตัวอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากความรู้พื้นฐาน และพัฒนาไปสู่ความรู้ขั้นสูง ซึ่งเด็กพวกนี้ค่อนข้างมีศักยภาพในตัวเองค่อนข้างมากจึงไม่ยากสำหรับที่จะสอนเด็กพวกนี้ และทางกระทรวงศึกษาต้องมีวิธีการหาเด็กพวกนี้มากกว่าการทดสอบแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองด้านทัศนะคติ แนวความคิด วุฒิภาวะทางด้านอารมณ์ เป็นต้น สำหรับเด็กทั่วไป ต้องมีวิธีการสอนที่พัฒนาความรู้ อารมณ์ และความคิด เป็นไปอย่างสมดุล โดยเฉพาะวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษและภาษาไทย เด็กไทยค่อนข้างจะมีปัญหามาก โดยดูจากผลการทดสอบในแต่ละช่วงชั้น ซึ่งคะแนนในวิชาเหล่านี้จะตำกว่า 50% ซึ่งในความเห็นของผม มองว่ามาจากความล้มเหลวของครูผุ้สอนเป็นหลัก เพราะหลังจากที่เด็กเหล่านี้ได้มาเรียนเสริมในวิชาที่กล่าวมาข้างต้น เด็กสามารถพัฒนาความรู้มาอยู่ในระดับที่น่าพอใจทั้งตัวของเด็กเองและผู้ปกครอง เนื่องจากครูในปัจจุบันต้องถูกประเมินคุณภาพผลงานทางวิชาการ แต่ครูเหล่านั้นส่วนใหญ่อยากจะทำสิ่งเหล่านั้นหรือไม่ ผู้บริหารเคยมองปัญหาเหล่านี้หรือไม่ แทนที่ประเมินครูวัดจากการสอนให้เด็กมีคุณภาพทางการศึกษา โดนวัดความสัมฤทธิ์ผลจากตัวเด็ก ไม่ใช่รายงานที่ทำขอผลงานทางวิชาการที่ได้จากการรับจ้างทำโดยกลุ่มคนบางกลุ่ม ซึ่งเป็นอันตรายต่อการพัฒนาในระบบการศึกษาของประเทศไทย กระทรวงต้องเปลี่ยนวิธีการประเมินครูใหม่ โดยดูจากความสัมฤทธิ์ผลของเด็กเป็นหลัก ครูเหล่านั้นจึงจำเป็นต้องพัฒนาการสอนให้เหมาะสมกับเด็กที่ตัวเองกำลังสอน ไม่ใช่ใช้วิธีการสอนแบบเดียวกันกับเด็กทุกๆคน เพราะเด็กในแต่ละกลุ่มความสามารถจะไม่เท่าเทียมกัน ซึ่งครูต้องมาดูรายละเอียดพื้นฐานของเด็ก ก่อนที่สอนเด็กกลุ่มนั้น โดยประเมินครูทั้งโรงเรียนไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง ทำให้เหล่านั้นในโรงเรียนช่วยกันพัฒนาการสอนให้มีคุณภาพทุกรายวิชา ทำให้เด็กได้รับประโยชน์จากการเรียนเต็มศักยภาพของเด็ก ทำให้การศึกษาไทยดีขึ้น ลองมองย้อนกลับไปในอดีต ครูที่สอนในโรงเรียนจบ ป.กศ.สูง อาจารย์ในมหาวิทยาลัยจบปริญญาโท แต่สอนเด็กให้มีความรู้ความสารถ นำความรู้ที่เรียนไปใช้ประกอบอาชีพอย่างมีคุณภาพ แต่ในปัจจุบันกลับกัน ครูในโรงเรียนจบ ป.ตรี หรือ ป.โท และอาจารย์ในมหาวิทยาต้องจบ ป.เอก แต่คุณภาพของเด็กในปัจจุบันกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด จึงจำเป็นต้องกลับมาทบทวนการศึกษาไทยทั้งระบบเสียใหม่ ก่อนที่ประเทศจะเสียหายไปมากกว่านี้
ผลงานยืนยันคุณภาพ
เตรียมสอบเข้า ม. 1 และ ม.4 โรงเรียนที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศ
รับรองผล 100 % หลังจากการประเมินจากทีมผู้สอน
วิชาที่เปิดสอน: คณิต วิทย์ อังกฤษ ไทย
วิธีการสอน: สรุปเนื้อหา และเน้นการทำโจทย์สอบแข่งขันที่หลากหลาย
ควบคุมคุณภาพ: ดร. พิพัฒน์ ทองฉิมและทีมผู้สอน จะประเมินความรู้นักเรียนเป็นระยะ
สมัครเรียน: ระบุโรงเรียนที่จะสอบเข้า เพื่อจะได้เน้นแนวข้อสอบเป็นพิเศษ
วิชาที่เปิดสอน: คณิต วิทย์ อังกฤษ ไทย
วิธีการสอน: สรุปเนื้อหา และเน้นการทำโจทย์สอบแข่งขันที่หลากหลาย
ควบคุมคุณภาพ: ดร. พิพัฒน์ ทองฉิมและทีมผู้สอน จะประเมินความรู้นักเรียนเป็นระยะ
สมัครเรียน: ระบุโรงเรียนที่จะสอบเข้า เพื่อจะได้เน้นแนวข้อสอบเป็นพิเศษ
เรียนแบบชิว...ชิว สไตล์บุฟเฟ่ต์
รูปแบบการสอน: LEARNING BY DOING
รูปแบบการเรียน: เรียนเดี่ยว เรียนกลุ่ม
วิชาที่เปิดสอน: คณิต วิทย์ อังกฤษ ภาษาไทย เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ สถิติ แคลคูลัส
กลศศาสตร์ (ของแข็ง-ของไหล)
ระดับที่เปิดสอน: ประถม มัธยม ปวช. ปวส. ปริญญาตรี
รูปแบบการเรียน: เรียนเดี่ยว เรียนกลุ่ม
วิชาที่เปิดสอน: คณิต วิทย์ อังกฤษ ภาษาไทย เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ สถิติ แคลคูลัส
กลศศาสตร์ (ของแข็ง-ของไหล)
ระดับที่เปิดสอน: ประถม มัธยม ปวช. ปวส. ปริญญาตรี
English Programme
Mathematics
Physics
Chemistry
Biology
Physics
Chemistry
Biology
บรรยากาศโรงเรียนกวดวิชาธิติพัฒน์
บรรยากาศออฟฟิศของโรงเรียน
ปรัชญาการสอน
แนวทางการสอนเด็กของผู้สอนใช้หลัก 3 ประการ
1. เข้าใจ คือ ผู้สอนต้องเข้าใจใน วิชา เนื้อที่ จะสอนอย่างถ่องแท้ พร้อมที่ถ่ายทอดให้ผู้เรียนอย่างถูกต้อง
2. เข้าถึง คือ ผู้สอนต้องเข้าถึงผู้เรียน ต้องทราบพื้นฐานความรู้ของผู้เรียนโดยทำการทดสอบก่อนเรียน ความชอบและความไม่ชอบวิธีการสอน
3. พัฒนา คือ ผู้สอนต้องพัฒนาตนเองและผู้เรียนตลอดเวลา เพื่อให้ผู้เรียนไปถึงเป้าหมายที่ต้องการ เต็มศักยภาพของผู้เรียน
1. เข้าใจ คือ ผู้สอนต้องเข้าใจใน วิชา เนื้อที่ จะสอนอย่างถ่องแท้ พร้อมที่ถ่ายทอดให้ผู้เรียนอย่างถูกต้อง
2. เข้าถึง คือ ผู้สอนต้องเข้าถึงผู้เรียน ต้องทราบพื้นฐานความรู้ของผู้เรียนโดยทำการทดสอบก่อนเรียน ความชอบและความไม่ชอบวิธีการสอน
3. พัฒนา คือ ผู้สอนต้องพัฒนาตนเองและผู้เรียนตลอดเวลา เพื่อให้ผู้เรียนไปถึงเป้าหมายที่ต้องการ เต็มศักยภาพของผู้เรียน
ข่าวดีสำหรับนักศึกษามีปัญหาวิชาพื้นฐาน เราช่วยได้
Calculus
Statistics
English
Physics
Chemistry
Engineering Mechanics (statics & dynamic)
Mechanics (Solid & Fluid)
รับรองผล สอบผ่านแน่นอน
Statistics
English
Physics
Chemistry
Engineering Mechanics (statics & dynamic)
Mechanics (Solid & Fluid)
รับรองผล สอบผ่านแน่นอน
PSU GET
การสอบ PSU GET ไม่ยากอีกต่อไป
เพระเรามีครูสอนที่มีความชำนาญ เข้าใจข้อสอบเพื่อให้ท่านทำข้อสอบได้
เพระเรามีครูสอนที่มีความชำนาญ เข้าใจข้อสอบเพื่อให้ท่านทำข้อสอบได้
โครงการพัฒนาศักยภาพของนักเรียนในเขตเทศบาลเมืองคลองแห
วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น